top of page

บทแนะนำ โครงการวิจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพ

ภาวะสังคมและคุณภาพชีวิตของพระสงฆ์

ชื่อหนังสือ :          ความรอบรู้ด้านสุขภาพ ภาวะสังคมและคุณภาพชีวิตของพระสงฆ์

ผู้วิจัย :                โกนิฏฐ์ ศรีทอง ชลวิทย์ เจียรจิตต์ เบญจมาศ สุขสถิต และชัยวัชร พรหมจิติพงศ์

องค์กรสนับสนุน : โครงการสร้างเสริมสุขภาวะเชิงพุทธของหน่วยอบรมประจำตำบลในสังคมไทย

                         สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

                         และสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

พิมพ์ :                พ.ศ. 2563

จำนวนหน้า :        198 หน้า

ประเภท :             งานวิจัย

Banner9-ปรับ.jpg

               การที่สังคมไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบกับโครงสร้างประชากรและการจัดการของภาครัฐในประเด็นสาธารณสุขเป็นอย่างยิ่ง   การศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงเชิงประชากรของสังคมไทยอย่างชัดเจนว่า ปัจจุบันสังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และกำลังอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือมีจำนวนสัดส่วนของประชากรสูงวัยคิดเป็น 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ภายใต้โครงการสร้างประชากรภาพรวมของทั้งสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อองค์กรคณะสงฆ์ไทยอย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน การพัฒนาองค์ความรู้และการทำเข้าใจสถานการณ์สุขภาพของคณะสงฆ์ไทยจึงเป็นประเด็นสำคัญ ที่จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนากิจการคณะสงฆ์อย่างยั่งยืนในยุคต่อไปเช่นกัน

อปต 8 9_๑๙๐๕๑๒_0110.jpg
IMG_7104.JPG

              ผลการศึกษาพบว่า สถานการณ์สุขภาพพระสงฆ์เกี่ยวกับภาวะโภชนาการอ้างอิงจากเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก พบว่า
พระสงฆ์มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 5.6 มีน้ำหนักตัวปกติ ร้อยละ 28.3 และมีภาวะโภชนาการเกิน ร้อยละ 66.1 สำหรับความรอบรู้ด้านสุขภาพของพระสงฆ์ ผลการศึกษาส่วนใหญ่ แสดงให้เห็นว่า พระสงฆ์มีความรอบรู้ด้านสุขภาพไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกลุ่มพระสงฆ์ที่มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป
ขณะที่ประเป็นการรักษาพยาบาลพระสงฆ์ส่วนใหญ่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร้อยละ 63.5 ไม่ใช้สิทธิใด ๆ ร้อยละ 20.8 และใช้สิทธิจากบริษัทเอกชน ร้อยละ 13.3 ภาพรวมของการศึกษาจะเห็นได้ว่า กลุ่มพระสงฆ์ยังจำเป็นต้องได้รับการยกระดับเกี่ยวกับความรอบรอบรู้ด้านสุขภาพ เพื่อให้ตระหนักต่อทั้งสิทธิและองค์ความรู้ที่จะรักษาสุขภาพของตนเอง ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสุขภาพ ประกอบด้วย ปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม และปัจจัยด้านนโยบาย  รูปแบบการยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพในสังคมไทย 3 รูปแบบสำคัญที่ค้นพบ คือ
รูปแบบการดำเนินการเพื่อยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยคณะสงฆ์ รูปแบบการดำเนินการเพื่อยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยมหาวิทยาลัย รูปแบบการดำเนินการเพื่อยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยหน่วยงานภาครัฐด้านสาธารณสุข

281019_๑๙๑๑๐๔_0006.jpg

               ข้อเสนอแนะการวิจัยที่สำคัญคือ มหาเถรสมาคมควรผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม สำนักงานคณะกรรมการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา และมหาวิทยาลัยสงฆ์ เป็นต้น ดำเนินการส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้พื้นฐานทางสุขภาพทั้งภายในคณะสงฆ์ และการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติ ควรร่วมมือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข เช่น กรมอนามัย กรมการอแพทย์ โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นต้น ดำเนินการส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้พื้นฐานทางสุขภาพและการส่งเสริมสิทธิทางสุขภาพในการรักษาพยาบาลให้กับพระสงฆ์

IMG_1810.JPG

          สามารถ Download รายงานฉบับสมบูรณ์ได้ที่นี่ 

เขียนโดย

unnamed.jpg

รศ.ดร.โกนิฏฐ์ ศรีทอง

ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

bottom of page